ดอกบัวสี่เหล่า

ห่างหายไปนาน เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังในการคุมทีม 10 ฤดูกาลกับ 3 ทีม เล่นประมาณ 1 เดือนได้ ตั้งแต่การเริ่มคุมทีมระดับลีก 3 ของอิตาลี และมีทีมใหญ่ๆ สนสนดึงตัวไปคุม จนได้แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลที่ 7 หรือ 8 นี้แหละ เดี๋ยวจะแนบความรู้ พวกการคุยก่อน หลังเกม คุยกับนักเตะ การปั้นนักเตะ เทคนิคการปรับแผนระหว่างเกม และแผนการเล่นที่ใช้ไว้ด้วย เผื่อไว้เป็นความรู้สำหรับคนเล่นใหม่ๆ ต่อจากที่เคยทำไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถ้ามันซ้ำกับที่ใครทำไว้แล้วก็ขออภััยด้วยนะครับ พอดีไม่ได้เข้ามานานมากๆ ที่เล่นคือ fm2013-14 นะ ลง fm2014-15 แล้วดันเล่นไม่ได้ เซงเลย ................................................................................................ ทีมที่ 1 บอกก่อนเลยว่าผมต้องการคุมเพื่อความท้าทายนะครับ ผมเลยมองหาทีมระดับต่ำของลีกอิตาลีจนได้ทีม Forli ในลีก SerieC2 (ทีมที่สื่อทำนายว่าจะได้อันดับสุดท้ายของลีก) เป้าหมายคือหนีตกชั้นให้ได้ พอเลือกทีมได้แล้วก็จัดการในส่วนต่างๆ ของทีม ดังนี้ 1. การจัดการเกี่ยวกับนักเตะในทีม เช่น การหานักเตะดาวรุ่ง การส่งนักเตะไปยืมตัว การฝึกนักเตะระดับเยาวชนและชุดใหญ่ ผมได้จัดให้พวกโค้ช ผู้ช่วยโค้ช หัวหน้าโค้ชเยาวชน และหัวหน้าแมวมองเป็นคนดูแลส่วนต่างๆ แทน จะได้ไม่ต้องไปกังวล และเสียเวลากับการดูแลในส่วนนี้ กดที่ชื่อทีม > เข้าไปที่ Staff Responsibilities ครับ 2. ดูนักเตะที่มีความสามารถในทีม ผมเน้นไปที่คนที่มีดาวเยอะๆ และเยาวชนที่พอจะปั้นขึ้นมาได้ เอาขึ้นมาไว้ในชุดใหญ่ก่อน เพื่อดูว่าเราจะสามารถใช้แผนอะไรได้บ้างกับนักเตะที่มี ปัดข้อเสนอทุกทีมและการยืมตัวนักเตะเหล่านี้ 3. เริ่มทำแผน โดยแผนต้องเข้ากับนักเตะที่มีอยู่ เพราะว่าทีมต่ำๆ ไม่มีงบประมาณ สำคัญที่สุดเลยคือแผนที่ใช้ ผมทำไว้ 3 แผน คือ 3-5-2, 4-4-2 และ 4-5-1 เพราะนักเตะตอนนั้นมีแต่กองหลัง และกองกลาง ปีกจะเป็นเยาวชน ผมเลยเลือกใช้แผน 3-5-2 ก่อน โดยแผนทั้งหมดที่ทำตอนแรกเป็นแผนตั้งรับทั้งหมด แค่จัดตำแหน่งมาให้ดูนะครับ ส่วน role และ duty ไม่ใช่แบบนี้ 4. การแข่งขันฤดูกาลแรก 2013-2014 ผลการแข่งขันช่วงต้นฤดูกาลต้องบอกเลยว่าแทบจะไม่อยากเล่นต่อ ค่าพลังนักเตะก็น้อย นักเตะผิดพลาดกันบ่อย แต่....... พอผมมานั่งวิเคราะห์ดูผมเห็นว่าทีมสามารถทำประตูได้แทบจะทุกนัดแม้จะแพ้ก็ตาม ผมเลยคิดว่า การใช้แผนตั้งรับไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เลยเปลี่ยนเป็นบุกแทน แพ้ก็ไม่เป็นไรยังดีีกว่ารอเสียประตู แล้วผลที่ได้คือ ทีมเริ่มชนะ ยิงได้ทุกนัดแม้จะเสียประตูเกือบทุกนัดแต่ก็คุ้ม จนขึ้นมาอยู่กลางตาราง ลีก SerieC2 มันเอา 7 ทีมขึ้นไป SerieC1 จบฤดูกาลผมคุมได้ที่ 7 พอดีเลยได้เลื่อนชั้น ดีใจมากกับการคุมฤดูกาลแรก :005: 5. การแข่งขันฤดูกาลที่สอง 2014-2015 พอเลื่อนชั้นขึ้นมาแล้วบอกเลยครับว่าไม่กลัวละ ใช้แผนบุกโดยเน้นใช้ปีกมากขึ้น แผนที่ใช้เริ่มใช้ 4-4-2 ทีมต่ำๆ สามารถเซ็นนักเตะฟรีเอเยนต์ได้ขึ้นกับงบค่าจ้างที่มี ผมเซ็นมา 3-4 คนเพื่อเติมเต็มแผนให้แน่นขึ้น การแข่งขันเป็นที่น่าพอใจครับ ผมจบอันดับที่ 4 ได้เตะ play-off เพื่อเลื่อนชั้นไป SerieB แต่อดครับ แพ้เพลออฟตั้งแต่นัดแรกเลย 6. การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผมมักจะแสดงความสนใจในการคุมทีมใหญ่ๆ หลายทีมที่มีข่าวว่าจะปลดผู้จัดการทีม แต่ทีมใหญ่ๆ ก็ปฎิเสธ และบอกว่ามันคงตลกที่จะดึงผมไปคุมทีม แต่พอจบฤดูกาลที่สองเท่านั้นแหละมีทีมมาติดต่อผมให้ไปคุมหลายทีม แต่เป็นทีมเล็กๆ ซะส่วนใหญ่ จนมีทีมหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะคุมขึ้นไปถึงลีกสูงสุดได้คือทีม CS Sedan Ardennes ผมจึงเลือกคุมทีมนี้ครับ 7. การคุยเรื่องปรัชญา ก่อนคุมทีมทุกๆ ทีมผู้บริหารมักจะมีปรัชญาของสโมสรไว้อยู่แล้ว แต่ของทีม Forli และ Sedan นี้ไม่มี ผมเลยตั้งปรัชญาให้ใหม่คือ เน้นเกมรุก ซึ่งบอร์ดบริหารก็เห็นด้วย ................................................................................................ ทีมที่ 2 ทีมที่คุมต่อมาคือทีม CS Sedan Ardennes ลีก National หรือลีก 3 ของฝรั่งเศส ลีกเท่าเดิมกับที่คุมทีม Forli และสื่อก็ทำนายว่าจะได้อันดับสุดท้ายเหมือนกัน เป้าหมายคือหนีตกชั้นให้ได้ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะมาคุมดีไหม แต่ผมเห็นว่าโอกาสการขึ้นไปลีกสูงสุดมีมากกว่าเลยเลือกที่จะมาคุมทีมนี้แทน ปล. งบประมาณซื้อตัวไม่มีเหมือนกัน ส่วนงบค่าจ้างใกล้เคียงกันแต่ทีมนี้มากกว่านิดหน่อย 8. เริ่มคุมทีม CS Sedan Ardennes เหมือนตอนเริ่มคุมทีม Forli คือจัดการส่วนต่างๆ ให้เรียบร้อย ทำให้ผมไม่ต้องเสียเวลาส่วนอื่น นอกจากการทำแผน และการคุมทีมในแต่ละนัดให้ดีที่สุด เป้าหมายที่ผมตั้งไว้กับบอร์ดคือจบอันดับกลางตารางให้ได้ 9. เริ่มทำแผน ปรัชญาของทีมที่ตั้งไว้คือเกมรุก ผมเลยเลือกทำแผนที่เน้นเกมรุกคือ 4-4-2, และ 4-5-1 จริงๆ ก็เอาแผนที่เคยทำทีม Forli นั้นแหละมาใช้ แค่ปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้นนิดๆ หน่อยๆ 10. ดูนักเตะที่มีความสามารถในทีม และการหานักเตะเข้ามาเติมเต็ม พอมาคุมทีม Sedan นักเตะเริ่มมีให้ใช้มากขึ้น มีกองกลาง ปีก และกองหน้าให้เลือกเยอะขึ้น โดยตำแหน่งไหนขาดก็จะเซ็นนักเตะฟรีเข้ามา เพราะงบไม่มีเหมือนเดิม 11. การแข่งขันฤดูกาลที่สาม 2015-2016 การแข่งขันเป็นไปได้สวยครับเกมรุกไม่ต้องห่วง แต่ปัญหายังอยู่ที่กองหลังเหมือนเดิม แข่งไปเรื่อยๆ ปรากฎว่า ผลงานดีมากเกินเป้าหมาย คือกลางตาราง ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายตัวเองว่าต้องเลื่อนชั้นให้ได้ ยังไงก็ตาม ลีก National มันเอาแค่ 3 ทีมเลื่อนชั้นขึ้นไป Ligue2 การแข่งขันดำเนินไปจนนัดสุดท้าย คะแนนทีมผมตามทีมอันดับ 3 อยู่ 1 แต้ม นัดสุดท้ายผมต้องชนะเท่านั้น และให้ทีมอันดับ 3 เสมอหรือแพ้ ทีมผมถึงจะได้เลื่อนชั้น สรุปทีมผมชนะ ทีมอันดับ 3 เสมอ ทีมผมเลยคะแนนมากกว่า 1 แต้มและได้เลื่อนชั้นไป Ligue2 เป็นอีกก้าวสำคัญ และดีใจมากๆ ที่มาคุมฤดูกาลแรกและได้เลื่อนชั้นทันที :008: 12. การแข่งขันฤดูกาลที่สี่ 2016-2017

crop ภาพมาแปะไว้เลยครับ เดี๋ยวอธิบายให้

ทำทีมไม่ตรงตาม board expectation อะป่าวอะครับ :014: :014: :013: :013:

น่าจะเป็นการทดสอบฝีเท้ามั้งครับสีเขียวๆ ไม่สามารถลงได้ครับ ต้องซื้อขาด(สีขาว)หรือยืมตัว(สีน้ำเงิน)ถึงจะลงได้

natural fitness ทำให้ condition ฟื้นฟูเร็วหรือช้าครับ เวลาเตะติดกันหลายๆ เกม คนที่ natural fitness เยอะจะมีโอกาสได้ลงหลายนัดกว่า แล้วก็ในส่วนเล่นได้นานหมายถึงเล่นได้จนอายุเยอะๆ เพราะค่าำพลังในส่วน physical จะลดลงช้ากว่า นักเตะที่มี natural fitness น้อยๆ ครับ ถ้าเล่นแต่ละเกมได้นานจะเป็นค่า stamina ครับ % ลดช้า

สำหรับทีมเล็กๆ เวลาเจอทีมใหญ่มักจะซ้อม att set piece ครับ แล้่วการได้ set piece เกิดจากการทำฟาวนั้นเอง ถ้าตั้ง opposition instruction ไม่ดีก็จะฟาวเยอะ ถ้าให้ผู้ช่วยตั้งให้ ต้องให้มันปรับใหม่ทุกๆ 15-20 นาที ต้องดูเรื่อยๆ แต่ถ้าเล่นจนรู้แล้วก็ปรับเองได้ ส่วนใหญ่จะปรับเวลามันเปลี่ยนตัว หรือเปลี่ยนแผนการเล่น opposition instruction ที่ตั้งไว้ในตอนแรกจะทำให้เกิดการพลาดขึ้น เพราะงั้นเวลาเจอกับทีมเล็กๆ ที่ชอบได้ประตูจากตั้งเตะ ให้เราซ้อม def set piece ไว้ แต่ถ้าเราได้บุกตลอดก็สังเกตุการเปลี่ยนตัว แล้วก็แผนของมันตามที่บอกไปครับ กรณีลูกเปิดจากริมเส้นก็อยู่ที่การตั้ง opposition instruction แล้วก็ค่าพลังของนักเตะเราด้วยครับ โดยเฉพาะความเร็ว

สำหรับกองหน้าที่ใช้โอกาสเปลืองให้เตือนหลังจากจบเกมครับ คลิกขวา > talk to player > match perform > last game > you squander many chances แล้วถ้าเกมไหนใช้โอกาสไม่เปลือง ให้ชมเป็น you were superb in front of goal ครับ ช่วยได้ในระดับหนึ่ง ปล. จากประสบการณ์แ้ล้วส่วนใหญ่อยู่ที่ team talk ครับ

สำหรีบทีมเล็ก ฤดูกาลแรกหวังแค่ได้อันดับตาม media prediction ก็พอครับ แผนใหม่นักเตะจะเข้าใจแล้วก็เล่้นได้ดีหลังจาก 15-20 นัดขึ้นไปแล้วครับ ฤดูกาลที่ 2 ค่อยว่ากัน

stat แต่ละครั้งเป็นไงมั้งครับ ได้บุกไหม ได้ยิงกี่ครั้ง ทีมตรงข้ามได้ยิงกี่ครั้ง เสียประตูจากลุกตั้งเตะรึเปล่า ถ้าเสียบ่อยก้ฝึก def.set p เวลาไปเยือน แล้วเวลาเสียประตู เสียจากนักเตะทีมตรงข้ามที่เพิ่งเปลี่ยนลงมารึเปล่า (ปกติมันจะเปลี่ยนแผนแล้วส่งนักเตะใหม่ลงมา ทำให้เราเสียประตู) ผมเจอบ่อยเวลาปรับ key หรือ extend ต้องคอยดูเรื่อยๆ แล้วปรับ opposition instruction เรื่อยๆ

เจ๋งดีครับ โหดๆ แค่ดูตำแหน่งก็โหดละ :049:

จ่ายบอลสวยมี 2 แบบครับ จ่ายให้เพื่อนตรงๆ กับจ่ายแบบลุ้นประตู ถ้าจ่ายให้ตรงๆ แนะนำให้ shout ว่า pass to feet ครับ ถ้าจ่ายลุ้นประตูให้ shout ว่า pass to space หรือไม่ต้องปรับก็ได้ครับ การเลือกตัวก็ดู passing สูงๆ ถ้า 15+ จะ through ball แม่นปรับเป็น often ได้ ถ้าตัวที่มี passing น้อยให้ตั้งเป็น medium แทน แล้วก็คู่กองกลางให้ปรับ run with ball rarely ครับ มันจะไม่เสียบอลง่าย แล้วเวลาได้บอลมันจะมีโอกาสจ่ายสวยๆ สูงครับ

แบบ mancity หรอครับ :019:

คุมฤดูกาลแรกช่ายไหมครับ ถ้าใช่ไม่ต้องกังวลครับ นักเตะส่วนใหญ่ จะมีคติกับเรายังไม่ค่อยดีจะขึ้นแดงเป็นปกติครับ ถ้าเราทำผลงานดี ชื่อเสียงมากขึ้น มันจะเขียวเองครับ แต่เขียวแดงมีผลนิดหน่อยครับ ไม่มาก ผมบอกเทคนิคคร่าวๆ เลยละกันครับ ----- ถ้ารู้แล้วก็ขออภัยครับ ใช้ความรู้สึกตัวเองก่อนนะครับว่าเราควรจะพูดยังไงให้นักเตะรู็สึกสบายใจ แล้วก็คุยแบบรวมไป (ไม่ต้องสนใจว่าเขียวหรือแดงนะครับ) หลังจากนั้นให้คุยแบบตำแหน่งๆ เน้นพูดว่า you have faith ทุกตำแหน่ง ทุกคนครับ (มันจะขึ้นเขียวให้บางตัว) แล้วดูการเล่นของนักเตะเอาครับ ถ้านักเตะยังเล่นไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับการคุยแบบรวมครับ หรือไม่ก็แผน ถ้าลองโหลดเซฟใหม่แล้วคุยแบบอื่นยังเล่นไม่ดีอยู่ ก็ขึ้นอยู่กับแผนละครับ ปล. ให้ดูการเล่นของนักเตะแต่ละคนที่ผมเคยโพสไว้ข้างบนด้วยนะครับ มีส่วนเหมือนกัน แต่ถ้านักเตะเล่นได้ดีทุกคนคือ rate >= 7.00 แต่เสียประตูง่ายก็แสดงว่าขึ้้นกับการตั้ง opposition setting ครับ การตั้ง opposition setting ก็ขึ้นอยุ่กับแผนเช่นกัน รายละเอียดเยอะครับอธิบายไม่หมด ถามนอกรอบละกันถ้ามันใช่จริงๆ :014: :014: :014: :014: :014: :014: :014:

ซ้ายสุดครับ ขึ้นอยู่กับการให้นักเตะกลับมาจากพักร้อนด้วยนะครับ ช่วงอาทิตย์แรกหลังนักเตะกลับมาจากพักร้อน general training ให้ปรับเป็น fitness (จนกว่าความฟิตนักเตะจะ 90% ขึ้นไปครับ) ส่วน match training ให้ปรับเป็น teamwork ครับ (เพื่อให้นักเตะมีสภาพร่างกายพร้อม แล้วก็เข้าใจกันในทีมครับ) หลังจากนั้น general training ให้ปรับเป็น tactic ส่วน match training ให้ปรับเป็น tactics only แล้วก็สลับไปแล้วแต่ทีมที่เจอ ถ้าเจอทีมเล้กกว่าให้เน้น attack movement, attk. set pieces ถ้าเจอทีมใหญ่กว่าให้ปรับเป็น defend, df. set p ครับ ปล. ช่วง pre-season จะเน้นแค่เพื่อให้นักเตะทุกคนเข้าใจแผนของเราครับ

ก็ไม่ต้องซื้อตัวไงครับ ยืมหรือไม่ก็เซ็นตัวฟรีเอา เอามาใช้แก้ขัดไปก่อน ถ้าทำผลงานดี กลางฤดูกาลไม่ก็ต้นฤดูกาลหน้า บอร์ดจะให้เงินมาใช้เองครับ :013: