เกม FM 2016 แต่ละทีมจะมีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนกัน มีจุดเด่นจุดด้อย แผนโหดแผนเทพแค่ไหนก็อาจไม่ได้เหมาะกับทุกทีม

 

ในตัวเกมมีการฟิกค่าพลังของทีมไว้ว่าให้เล่นแบบไหน และในแต่ละทีมก็มีนักเตะแตกต่างกัน

 

แต่ละทีมจะมีการไล่บอลไม่เหมือนกัน บางทีมไล่บอลมากแล้วดี บางทีมไล่บอลมากก็ไม่ดี ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะในทีมว่าเล่นบอลสไตล์ไหน

 

ยกตัวอย่าง ทีมเชลซี เริ่มเกมใหม่ นักเตะชุดเดิมยังไม่มีการซื้อขาย เราจะตั้งการไล่บอลแบบไหนที่นักเตะชุดนี้ถนัด สมมุติเราวางแทคติกแล้วว่าตำแหน่งไหนเล่นแบบไหน จะ4-4-2 4-3-3 4-2-3-1 ก็ว่าไป

 

วางการยืนตำแหน่งเสร็จแล้วเราก็ไปดูตรง FAMILIARITY ว่าเพิ่มหรือลดยังไง จะยกตัวอย่างการวางแทคติก Closing Down หรือไล่บอล จากรูปนะครับ

 

Closing Down แบบ Much Less คือไล่บอลน้อยมากๆ นักเตะยังไล่บอลอยู่นะแต่น้อยมากๆ ดูตรงกรอบแดงๆ แบบนี้นักเตะจะยืนคุมโซน

เสร็จแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ตรง Closing Down ว่าขีดความถนัดเพิ่มหรือลดหรือเท่าไร เอาเมาส์ชี้จะเห็น ในรูปความถนัด52%

ทีนี้เราก็มาไล่ทีละอันว่าตั้ง Closing Down แบบไหนนักเตะในทีมเราจะถนัด ลองอันต่อมานะ Closing Down แบบ Less ไล่บอลน้อย อันนี้ไล่บอลมากกว่าอันแรกนิดนึง แต่ยังยืนคุมโชน

เสร็จแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ตรง Closing Down ว่าขีดความถนัดเพิ่มหรือลดหรือเท่าไร เอาเมาส์ชี้จะเห็น ในรูปความถนัด88%

ลองอันต่อมานะ Closing Down แบบ Sometimes คือไล่บอลเป็นบางครั้งบางคราว ก็คือไล่บอลมากกว่าอันที่แล้วเพิ่มมาอีก อันนี้นักเตะจะทิ้งตำแหน่งไปไล่บอลเป็นบางครั้ง แต่ไปไล่นิดนึงก็ถอยกลับตำแหน่งตัวเอง

เสร็จแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ตรง Closing Down ว่าขีดความถนัดเพิ่มหรือลดหรือเท่าไร เอาเมาส์ชี้จะเห็น ในรูปความถนัด83%

อันต่อมา Closing Down แบบ More คือให้ไล่บอลมาก มากว่าบางครั้งบางคราว อันนี้นักเตะจะทิ้งตำแหน่งตัวเองไปไล่บอล นักเตะจะไม่อยู่ในพื้นที่ตัวเอง

เสร็จแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ตรง Closing Down ว่าขีดความถนัดเพิ่มหรือลดหรือเท่าไร เอาเมาส์ชี้จะเห็น ในรูปความถนัด49%

อันต่อมา Closing Down แบบ Much More คือให้ไล่บอลมากๆไล่ทุกจังหว่ะ ไล่ให้สุด นักเตะจะทิ้งตำแหน่งตัวเองไปไล่บอล แบบไม่กลับประจำตำแหน่งจนกว่าจะได้บอลหรือจนกว่าอีกฝ่ายจะหลุดจากการไล่บอล

เสร็จแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ตรง Closing Down ว่าขีดความถนัดเพิ่มหรือลดหรือเท่าไร เอาเมาส์ชี้จะเห็น ในรูปความถนัด29%

จากในรูปเราจะเห็นว่านักเตะชุดนี้ ถนัดการไล่บอลแบบ Less เราก็ไปตั้ง Closing Down แบบ Less ซะนักเตะจะเล่นได้ถนัดมากกว่าแบบอื่น

 

ถามว่าตั้งแบบอื่นได้ไหม บังคับฝึกแทคติกให้นักเตะเล่นให้ได้ตามแผนที่เราตั้งไว้แต่แรก ก็ตอบว่าได้ แต่ใช้เวลานานมากหลายเดือนกว่านักเตะจะถนัดในการไล่บอลแบบที่เราต้องการ

 

และการไปฝึกแทคติกให้นักเตะถนัดตามแผนของเรามากเกินไปก็ทำให้ไม่ค่อยได้ฝึกแบบอื่น ความสมดุลก็ไม่เกิด

 

แต่ถ้าเราเริ่มเกมมาเราตั้งแทคติกที่นักเตะเหล่านี้เล่นถนัดที่สุด ก็จะเป็นการดึกศักยภาพของตัวนักเตะให้ฉายแสงออกมาได้ คือจะเล่นดีนั่นเอง

 

เราต้องคำนึงถึงข้อแรกว่าเริ่มเกมใหม่ ตัวเกมคำนวนพลังนักเตะ และแทคติกไหนที่จะเหมาะสมไว้แบบนั้น ถ้าเราไปฝืนกฏธรรมชาติของตัวนักเตะ ต่อให้เราจะฝึกจน FAMILIARITY เต็มทุกอัน นักเตะก็จะเล่นไม่เป็นธรรมชาติอยู่ดี

 

ในตัวอย่างนักเตะในทีมเชลซีส่วนมากวิ่งช้า ถ้าตั้งไล่บอลมาก นักเตะจะกลับประจำตำแหน่งเดิมไม่ทัน และทำให้เกิดพื้นที่ว่างให้คู่ต่อสู้เข้าทำเกม

 

นี่คือตัวอย่างของการวางแทคติก Closing Down ไล่บอล หรือการไล่บอล

 

ซึ่งการวางแทคติกแบบอื่นไม่ว่าจะเป็น TEMPO-จังหว่ะการเล่นทุกอย่าง ยิง ส่งบอล เตะฟรีคิก ทุ่ม ทุกอย่างในสนาม จะให้ช้าให้ไวตั้งตรงนี้

 

WIDTH-การเล่นกว้างเล่นแคบ เล่นกว้างคือยืนห่างๆกัน เล่นแคบคือยืนใกล้ๆกัน มันจะไปสัมพันธ์กับการจ่ายบอลด้วย

 

PASSING DIRECTNESS การส่งบอลจ่ายบอล จะให้จ่ายสั้นจ่ายยาวก็ตั้งตรงนี้

 

ตั้งจ่ายบอลสั้นก็ควรตั้งให้เล่นแคบ ตั้งจ่ายยาวก็ควรตั้งให้เล่นกว้างๆ

 

ตั้งจ่ายบอลสั้นแต่ไปตั้งให้เล่นกว้างๆนักเตะมันก็จะงง เพราะมันมองหาเพื่อนตรงที่กว้างไม่เจอเพื่อนมากระจุกอยู่ใกล้ๆ เป็นเหตุให้เสียบอลหรือจ่ายพลาด

 

การวางแทคติกในหน้า TEAM INSTRUCTIONS ทุกข้อก็ใช้แนวทางเหมือนกัน คือเราตั้งค่าแล้วเราก็ไปดู FAMILIARITY ว่ามันลด-เพิ่ม ยังไงแบบไหนถึงจะดี

 

จบแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะยาวไปเรื่องอื่น ภาคนี้เล่นเอาเหนื่อยกับการวางแผนแท้ๆ :014:

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความสัมพันธ์ของค่า FAMILIARITY แบบต่างๆ กับการวางแผน

 

เราจะตั้งต่ายังไงให้ได้ค่า FAMILIARITY ตรงกับความถนัดของทีมเรา เราก็มาดูตรงนี้ว่าอันไหนตั้งแล้วจะได้ค่าไหนเพิ่ม

 

Formation สัมพันธ์กับ TACTIC

 

Mentality สัมพันธ์กับ MENTALITY

 

Passing Style สัมพันธ์กับ PASSING DIRECTNESS ในหน้า TEAM INSTRUCTIONS

 

Creative Freedom สัมพันธ์กับ TEAM SHAPE

 

Closing Down สัมพันธ์กับ CLOSING DOWN ในหน้า TEAM INSTRUCTIONS

 

Marking สัมพันธ์กับ TACKLING ในหน้า TEAM INSTRUCTIONS

 

Tempo สัมพันธ์กับ TEMPO ในหน้า TEAM INSTRUCTIONS

 

Width สัมพันธ์กับ WIDTH ในหน้า TEAM INSTRUCTIONS

 

เอาแค่นี้ก่อนนึกได้เท่านี้ :014:

เริ่มเกมมาถ้าเราสร้างแผนที่เหมาะกับนักเตะในทีมได้มากที่สุดนักเตะก็เล่นได้ถนัดและมีความพร้อมในการเริ่มฤดูกาลใหม่ไวขึ้น

 

ถ้าแผนที่นักเตะไม่ถนัด กว่าจะลงตัวทีมเราก็ยำแย่แล้ว

 

อันนี้ตัวอย่าง FAMLIARITY เริ่มเกมมาวันแรกแถวหน้าเต็ม โดยไม่ต้องซ้อม แถวหลังบางอย่างเกือบเต็ม ต้องอาศัยช้อมช่วยแต่คงไม่นานก็คงเต็ม

 

 

เริ่มเกมใหม่ควรสร้างแผนให้นักเตะเล่นได้ถนัดที่สุดก่อน ถ้าได้นักเตะมาใหม่ค่อยมาทำแผนให้นักเตะใหม่เล่นได้ถนัดที่สุด กับแผนโหดๆที่เราต้องบังคับนักเตะให้เล่นตามแผน กว่านักเตะจะเล่นแผนโหดได้เหนื่อย :014:

ขอบคุณมากครับ ช่วยผมได้เยอะเลย เข้าใจมากขึ้น 555  :021:

เซ็ต Playmaker ไว้สามคน Matic, Fabregas, Oscar แบบนี้ ไม่แย่งกันจ่ายบอลอันตรายบ่อยๆ เหรอครับ? เซฟของผมนี่พอมี Playmaker มากกว่าหนึ่งปุ๊บครองบอลแทบไม่ได้เลย จ้องจะจ่าย killer pass กันอย่างเดียว แล้วก็จ่ายไปให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามเค้าเก็บกิน แหะๆๆ

เซ็ต Playmaker ไว้สามคน Matic, Fabregas, Oscar แบบนี้ ไม่แย่งกันจ่ายบอลอันตรายบ่อยๆ เหรอครับ? เซฟของผมนี่พอมี Playmaker มากกว่าหนึ่งปุ๊บครองบอลแทบไม่ได้เลย จ้องจะจ่าย killer pass กันอย่างเดียว แล้วก็จ่ายไปให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามเค้าเก็บกิน แหะๆๆ

แผนตัวอย่างการปรับค่า FAMILIARITY เฉยๆครับ ตอนเล่นตั้งอีกแบบไม่ได้ใช้แผนนี้

 

ผมลองให้เล่นโรลถนัดของนักเตะเฉยๆ จะดูวงเขียวมันเต็ม เทสว่าเกี่ยวกับ FAMILIARITY หรือเปล่าเท่านั้น

 

ตัวผู้เล่นตั้ง Roll ไหนก็ได้ไม่มีส่วนกับ FAMILIARITY

ภาคนี้ยากยุครับขอคำแนะนำด้วนนะครับ

มันคือขีดความเข้าใจไม่ใช่หรอ แปลตรงๆคือ ความคุ้นเคย

 

นักเตะช้า แต่อยากให้เข้าบอลเร็วๆกดดันพื้นที่ให้มากต้องเล่นให้แคบลง กองหลังก็ต้องดันสูงขึ้น เพื่อให้นักเตะมีพื้นที่รับผิดชอบน้อยลง อันนี้จากประสบการ์ณตอนภาค FM15 ที่ใช้ Javi Martinez เล่นคู่กับ William Carvalho ครับ โดยทั้งสองคนวิ่งเป็นเต่าทั้งคู่ แต่พลัง position สูง และมี Strength เยอะ แย่งบอลดีมาก แต่หากถ้าเล่นกว้างมาก มันตามใครไม่ทันเพราะพื้นที่รับผิดชอบมันเยอะเกินไป+คู่ต่อสู้มีพื้นที่ให้กระชากหนี สรุปเลย นักเตะช้าอยากให้ไล่บอลเยอะก็ทำได้ครับ แต่ผู้เล่นเกมส์ต้องเข้าใจในแทคติกด้วย มันไม่เกี่ยวกับถนัดหรือไม่ถนัด มันสำคัญที่ความลงตัวหรือไม่ลงตัวครับ

 

ส่วนขีดเหล่านั้นตอนเริ่มเกมส์แต่ละทีมนั้นแตกต่างกันจริง แต่จุดสังเกตคือ ถ้าทีมนั้นตอนเริ่มเกมส์ เป็นทีมที่ผู้จัดการทีมคุมทีมไม่นาน เมื่อเราเข้าไปคุมทีมและเข้าไปที่หน้า Tactic ทันที ค่าพลังความเข้าใจจะต่ำครับ แต่ทีมไหนผู้จัดการทีมคุมทีมมานานแล้วเราเข้าไปแทน ค่าความเข้าใจนั้นจะเกือบเต็ม หรือบางทีเต็มเลยก็มีอย่างที่ Arsenal ไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับแต่ต้องพิสูจน์เองว่าจริงไหม

ทีมที่ผู้จัดการทีมคุมทีมไม่นานคือ

aston villa

liverpool

leicester city

west ham

พวกนี้ค่าความเข้าใจจะต่ำตั้งแต่เริ่มเกมส์

ลองเข้าไปคุมพร้อมๆกันแล้ววัดกับพวกทีมที่ผู้จัดการทีมคนเก่าคุมมานานๆจะทราบครับ

 

เกมส์นี้สมจริงระดับหนึ่ง ถ้าไปคุมทีมที่ผู้จัดการทีมฝึกแผนจนผู้เล่นคุ้นเคยดีแล้ว เมื่อเราเข้าไปคุมก็จัดแผนให้ใกล้เคียงได้เลย (ถ้าทีมนั้นทำผลงานดีอยู่แล้วนะ แต่หากทีมนั้นผลงานห่วย ก็ทำแผนใหม่เถอะและใช้ไปเรื่อยๆจนนักเตะคุ้นเคย)

 

ส่วนการฝึกแผนให้นักเตะคุ้นเคย ตั้งแต่เริ่มฤดูกาล ผมใช้เวลา pre season + นัดเปิดฤดูกาลผ่านไป 3-4นัด ก็เต็มแล้วครับ (ฝึกแผนเต็ม3วันก่อนแข่งช่วยได้เยอะ แต่ต้องมีอุ่นเครื่องเยอะด้วย)

แก้ไขเมื่อ ธันวาคม 3, 20159 yr โดย devilblaze

เเล้ว match sharpness คืออะไรหรอครับ 

ถ้าเปิดเกมส์ขึ้นมาก็คงใช่นะครับ แต่ทำไมขึ้นฤดูกาล 2 แล้วก็ยังต่ำอยู่ เพราะฤดูกาลแรกผมฝึกแผน 3 แผน คือ 4-2-3-1, 4-1-2-2-1 และ 4-4-2 จนเต็มแล้ว (ซึ่งใช้เวลาทั้งปีกว่าจะเต็ม) ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่า พอปิดฤดูกาลแล้วเปิดฤดูกาลมาใหม่แค่ฝึกซัก 2-3 เดือนก็น่าจะเต็ม แต่พอเปิดฤดูกาลแผน 3 แผนเหลือแค่ประมาณ 20% เองแทบจะเรียกว่าฝึกใหม่เลย

 

1.ผมคิดว่าอย่างแรกอาจจะเพราะมีนักเตะใหม่หลายคนมันก็เลยเหลือแค่นี้ เพราะยังไงเราก็ต้องซื้อและขายนักเตะทุกปี ความคุ้นเคยถ้านักเตะเก่าเหลืออยู่เยอะ ก็น่าจะเข้าใจเร็วขึ้น

2.อาจจะมีพวก facility น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าห่วยมาก กว่าจะฝึกแผนจนคุ้นเคยก็นานมาก เพราะตอนเล่นเลสเตอร์ฤดูกาลแรก มีเงินซื้อตัวไม่กี่ล้าน แถมมันก็ไม่ค่อยมาด้วย เพราะงั้นเกือบทั้งทีมก็เลยเป็นนักเตะเก่า แต่ความคุ้นเคยของแผนก็ยังต่ำมาก เช่น 4-4-2 ซึ่งน่าจะเป็นแผนที่ถนัดสุดของทีมนี้แล้วก็ยังแทบไม่ต่างจากแผนอื่นเลย

เเล้ว match sharpness คืออะไรหรอครับ 

 

ตามที่เข้าใจ คือความพร้อมสำหรับการเล่นในสนาม ถ้า Match Sharpness น้อย แปลว่านักเตะไม่พร้อมลงแบบเต็มเกม คือพอผ่านไปกลางๆ เกมหรือท้ายๆ เกม มาตรฐานการเล่นอาจจะตกได้ นึกถึงนักเตะที่หายเจ็บกลับมาเล่นใหม่ๆ ดูนะครับ ไอ้แผลน่ะหายแล้ว แต่กว่าจะเรียกความพร้อมความเข้าใจในเกม หรือฟอร์มเดิมๆ กลับมาก็ต้องใช้เวลาอยู่ประมาณนึง เราถึงได้เห็นบางทีมส่งนักเตะชุดใหญ่ที่หายเจ็บกลับมาใหม่ๆ ไปเล่นเกมของทีมสำรอง นั่นแหละครับ เพื่อเรียกค่า Match Sharpness นี่กลับมา

 

ถ้าเปิดเกมส์ขึ้นมาก็คงใช่นะครับ แต่ทำไมขึ้นฤดูกาล 2 แล้วก็ยังต่ำอยู่ เพราะฤดูกาลแรกผมฝึกแผน 3 แผน คือ 4-2-3-1, 4-1-2-2-1 และ 4-4-2 จนเต็มแล้ว (ซึ่งใช้เวลาทั้งปีกว่าจะเต็ม) ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่า พอปิดฤดูกาลแล้วเปิดฤดูกาลมาใหม่แค่ฝึกซัก 2-3 เดือนก็น่าจะเต็ม แต่พอเปิดฤดูกาลแผน 3 แผนเหลือแค่ประมาณ 20% เองแทบจะเรียกว่าฝึกใหม่เลย

 

1.ผมคิดว่าอย่างแรกอาจจะเพราะมีนักเตะใหม่หลายคนมันก็เลยเหลือแค่นี้ เพราะยังไงเราก็ต้องซื้อและขายนักเตะทุกปี ความคุ้นเคยถ้านักเตะเก่าเหลืออยู่เยอะ ก็น่าจะเข้าใจเร็วขึ้น

2.อาจจะมีพวก facility น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าห่วยมาก กว่าจะฝึกแผนจนคุ้นเคยก็นานมาก เพราะตอนเล่นเลสเตอร์ฤดูกาลแรก มีเงินซื้อตัวไม่กี่ล้าน แถมมันก็ไม่ค่อยมาด้วย เพราะงั้นเกือบทั้งทีมก็เลยเป็นนักเตะเก่า แต่ความคุ้นเคยของแผนก็ยังต่ำมาก เช่น 4-4-2 ซึ่งน่าจะเป็นแผนที่ถนัดสุดของทีมนี้แล้วก็ยังแทบไม่ต่างจากแผนอื่นเลย

 

เข้าใจว่า ปกติพวกค่า Familiarity จะลดลงเวลาปิดฤดูกาลอยู่แล้วครับ เหมือนนักเตะไม่ได้เล่นไม่ได้ซ้อมนานๆ ก็ต้องกลับมาปรับจูนกันหน่อย การเปลี่ยนทีมทีละเยอะๆ อย่างที่คุณว่าก็มีผลครับ ช่วงพรีซีซั่นลองจัดนัดกระชับมิตรเยอะหน่อย แล้วก็ฝึก Team Cohesion เยอะๆ จะช่วยได้ครับ

เปิดหน้า team instruction ยังไงอ่าคับ ผมหานานมาก TT

เปิดหน้า team instruction ยังไงอ่าคับ ผมหานานมาก TT

 

ตามนี้ครับ