Jump to content

Recommended Posts

Posted (edited)

จากบทเรียนที่ผ่านมา

ในบทนี้ คือบทสำคัญที่สุดในเกมการแข่งขันฟุตบอล นั่นก็คือ การแก้เกม

 

บทที่ 4 การแก้เกม

สิ่งที่เราต้องรู้คือ เกมที่ดีกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องชนะเสมอไป และ เกมที่แย่กว่าก็มิใช่ว่าจะแพ้เสมอไป

เช่น เกมที่ลิเวอร์พูลเจอกับเอซีมิลาน ปีที่คว้าแชมป์ต้องบอกว่า มิลานเล่นดีกว่าจริงๆ แต่แพ้

ส่วนเกมที่มิลานได้แชมป์ลิเวอร์พูลก็เล่นดีกว่าจริงๆ เช่นกัน นี่แหละคือ เสน่ห์ของเกมฟุตบอล

 

เกมที่ดีกว่าคือ เกมที่เรามีโอกาสต่างๆ มากกว่าจากค่าสถิติ โดยรวม จาก..

1. การครองบอล

2. โอกาสจบสกอร์ ( ตรงกรอบประตู กับไม่ตรงกรอบ )

3. ลูกฟรีคิก ( เรียกฟาล์ว หรือ การได้เตะมุม หรือ เสียฟาล์ว )

4. การผ่านบอล

5. การวางบอล

6. การเข้าปะทะ

7. การเล่นลูกกลางอากาศ

 

จากค่าสถิติที่เราได้มานั้น เราสามารถนำมันมาแก้เกมได้ โดยความเป็นจริงแล้ว เมื่อเรามีเกมที่ต้องเน้นผลจริงๆ ก็สมควรที่เข้าดูเกมแบบเต็มจะช่วยได้มากกว่าค่าต่างๆ เหล่านี้ครับ...

 

การแก้เกม จาก 6 หัวข้อที่กล่าวมานั้น เป็นดังนี้

1. การครองบอล

การครองบอลนั้น หาก % การครองบอลของเรานั้นต่ำ ก็ต้องดูว่ารูปแบบการเล่นของทีมเรานั้นอยู่ในทิศทางใด ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท นั้นคือ ต้องการประตู ,ต้องการสวนกลับ ,เน้นผล( เมื่อได้สกอร์ตามที่ต้องการแล้ว )

ในกรณีของทั้งสามประเภท % การครองบอลนั้นจะแตกต่างกันออกไปดังนี้

- ต้องการประตู 50-65 %

หากเราต้องการประตูจากทีมคู่แข่ง ก่อนอื่นเราต้องมีบอลอยู่กับผู้เล่นของเรา นั่นก็คือเราต้องสามารถที่จะครองบอลได้มากกว่าปกติ เพื่อที่จะใช้เปิดเกมรุก แล้วเมื่อเสียบอลก็สมควรที่จะรีบแย่งมาไว้ การต้องการประตูในลักษณะดังกล่าวนี้จะถูกใช้กับทีมคู่แข่งที่ด้อยกว่าทีมของเรา

 

- ต้องการสวนกลับ 35-50 %

เกมสวนกลับ มิใช่เกมที่จะไร้ซึ่งความต้องการประตู แต่ก็มิใช่จะต้องการประตู ความหมายของมันก็คือ ผลแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่ถ้ายิงได้ก็จะดีกว่านี้อีก ( แต่ถ้าเสียก็พอทำใจไหว ) เกมลักษณะเช่นนี้มักใช้กับทีมที่เล่นนอกบ้าน หรือทีมคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าทีมของเรา

 

- เน้นผล 55-70 %

เกมแบบเน้นผลนี้คือรูปแบบเกมที่ต้องการความแน่นอนสูง ต้องการผลที่เป็นอยู่อย่างชนิดที่เรียกว่า ไม่ต้องการได้ประตู หรือเสียประตู สรุปก็คือแบบนี้แหละที่ฉันต้องการ เกมลักษณะเช่นนี้เราจะเห็นในเกมบอลถ้วยซึ่งเป็นนัดเดียวชี้ชะตา หรือชี้ขาด ที่ผลลัพเมื่อได้ผลตามที่ต้องการ อาจจะได้แชมป์ หรือเข้ารอบต่อไปเป็นต้น ดังนั้นมันเป็นเกมที่ค่อนข้างน่าเบื่อและไม่เร้าใจ ซึ่งไม่นิยมในลีคเพราะเมื่อเกมน่าเบื่อ ความนิยมก็จะน้อยลง และคนดูก็จะน้อยลง เงินก็จะน้อยลง จนเรามีสิทธิโดนปลดอีกต่างหาก ( เหมือนมูรินโยไงครับพี่น้อง )

 

% การครองบอลนั้น ขึ้นอยู่กับการวางรูปแบบเกมต่างๆ ดังนี้

- การเปิดเกมรุก

- จังหวะการผ่านบอล

- ลักษณะการผ่านบอล

- ทิศทางการผ่านบอล

- การถ่วงเวลา

อธิบาย..

การเปิดเกมรุกนั้น จากบทเรียนที่ผ่านมา ก็หมายถึง ตำแหน่งการยืนของผู้เล่น และตำแหน่งของลูกฟุตบอลที่จะถูกพาไปยังพื้นที่ต่างๆ ดังนั้น เมื่อเราต้องการครองบอลในมากกว่าปกติ ก็จำเป็นที่จะต้องดูว่า ทีมของเรานั้นมีการเคลื่อนที่ของบอลในทิศทางใดที่จะสะดวกกว่า เช่น เมื่อปีกของเรามีผู้เล่นประกบอยู่ 2 คนซึ่งอยากต่อการพาบอลไปข้างหน้า หากเราใช้ให้ผู้เล่นนั้นรุกไปข้างหน้าอีก ก็จะเป็นผลทำให้ทีมของเรานั้นเสียบอล เป็นเหตุให้สูญเสียการครองบอลในที่สุด ในทางกลับกันเกมที่ต้องการประตูนั้น ก็มิใช่หมายความว่าเป็นเกมที่ต้องเปิดเกมรุกจนสุดแนวเส้นแต่อย่างใด โดยเราสามารถแก้ได้ด้วยการ โยนบอลข้ามผ่านกองกลาง หรือแนวรับของทีมคู่แข่งก็ได้เช่นกัน

 

จังหวะการผ่านบอลนั้น คือการที่ผู้เล่นนั้นส่งต่อบอลที่อยู่กับตัวเองไปสู่ผู้เล่นอีกหนึ่งคน หากไม่ถูกแย่ง หรือ หลุดออกนอกสนาม ในลักษณะดังกล่าวนั้นถือว่าทีมของเรายังได้ครองบอลอยู่ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ % การครองบอลนั้นลดต่ำลง เนื่องมาจาก จังหวะการผ่านบอลนั้นเร็วเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นในตำแหน่งที่สมควรรับนั้นไม่ทันระวัง หรือยังไปไม่ถึงตำแหน่งของตัวเอง ก็จะเป็นสาเหตุให้จ่ายบอลพลาดไป เช่น หากเราลากเส้นให้ปีกวิ่งขึ้นเทียบกองหน้า แต่ผู้เล่นปีกนั้นวิ่งช้า แถมยังไม่ค่อยขยัน ( work rate ) และ ก็ยังเหนื่อยง่าย ( stamina ) เมื่อเราใช้จังหวะการเล่นที่เร็ว แน่นอนว่า ตำแหน่งจากปีก ( ML ) วิ่งไปจนถึงกองหน้าที่ตำแหน่ง ( FL ) ก็จะมีผลทำให้ บอลที่จ่ายออกไปนั้น ไปถึงในตำแหน่งดังกล่าวก่อนที่ ผู้เล่นของเราจะวิ่งไปประจำตำแหน่งนั่นเอง หากเราคิดว่า จังหวะการผ่านบอล ต่อครั้งคือ 5 วินาที แล้วผู้เล่นใช้เวลาวิ่งจาก ML ไป FL นั้นใช้เวลา 7 วินาที แน่นอนว่าย่อมวิ่งไปไม่ทันอย่างเห็นได้ชัด

 

ลักษณะการผ่านบอลก็เช่นกัน นั้นหมายถึง การผ่านบอลที่มีทั้ง ใกล้ ไกล ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่จะเป็นผลต่อการครองบอลโดย เมื่อเกมที่เราตั้งจังหวะเกมที่เร็ว แต่ผู้เล่นนั้นอยู่ห่างจากตำแหน่งนั้นมาก ก็จะทำให้สูญเสียการครองบอลได้ โดยในลักษณะเช่นนี้ การครองบอลที่ได้ผลดีที่สุดคือ การเล่นกันใกล้ๆ หรือชิ่งกันไปมา ในลักษณะเท้าสู่เท้า ( การไม่ส่งเผื่อพื้นที่ ) จะทำให้ผู้เล่นนั้นไม่ต้องวิ่ง และมีความแน่นอนกว่า ( ในกรณีที่ไม่ลากเส้น )

 

ทิศทางการผ่านบอลนั้น เป็นปัจจัยค่อนหนึ่งที่จะทำให้เกมมีประสิทธิภาพ มันขึ้นอยู่กับการวางตัวผู้เล่นในระบบเช่น 4-4-2 หรือ 4-3-3 หรือ 5-3-2 เป็นต้น รวมถึงเส้นลากในแนวรับต่างๆ เพราะการครองบอลนั้นอยู่ในรูปแบบเกมรุก ส่วนทีมที่ไม่ได้ครองบอลนั้นคือรูปแบบเกมรับ ซึ่งจะคิดเพียงลูกสอนลากลง ซึ่งก็หมายถึงตำแหน่งที่ทีมคู่แข่งจะลงไปตั้งเกมรับนั่นเอง ตำแหน่งต่างๆ นั้นก็สมควรจะไม่ซ้ำกันตำแหน่งที่ทีมรุกของเรา ( นับการลากลูกสอนขึ้น ) ไม่ตรงกัน เช่น ปีกขวาของเรา กับ แบ๊กซ้ายของเขา หากปีกขวาของเราลากขึ้นสุด ก็จะชนกับแบ๊กซ้ายของเขา ซึ่งหมายถึงถูกประกบในตำแหน่งค่อนข้างแน่นอน ( จะหลุดหรือไม่ก็อีกเรื่อง แต่กำลังบอกว่ามันเป็นการผ่านบอลไปแล้วครองบอลยาก )

 

การถ่วงเวลา มันเป็นสิ่งที่ทำให้การครองบอลนั้นมีค่ามากที่สุด เมื่อการถ่วงเวลา ก็คือการเก็บบอลไว้กับตัว และยังรวมไปถึง การแกล้งเจ็บ การทุ่ม การเตะลูกนิ่ง ( ฟรีคิก มุม ประตู ) ซึ่งไม่ใช่การครองบอล แต่ก็เป็นปัจจัยที่ทำเพื่อให้เกิดผลประตูตามที่ต้องการนั่นเอง

 

2. โอกาสจบสกอร์ ( ตรงกรอบประตู กับไม่ตรงกรอบ )

การทำประตูนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายลักษณะ โดยเราสามารถแยกออกได้เป็นดังนี้

- เข้าฮอส ( finish )

- ยิงไกล ( long shot )

- โยนข้ามหัว ( แบบเหนือชั้น ) ( fair )

- โหม่ง ( heading )

- ฟลุค ( ทำเข้าประตูตัวเอง ,เปิดโยนแต่รับวืด ) ไม่มีหรอก ก็มันฟลุค นี่หว่า

 

จากการทำประตูแต่ล่ะชนิดนั้น ใช้ค่าพลังของนักเตะที่ต่างกัน ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ทำให้เราเข้าใจว่า การทำประตูนั้น จะต้องมีผู้เล่นหลากหลาย ในบทก่อนหน้า เราได้อธิบายถึงค่า finish ซึ่งคือค่าการจบสกอร์ แบบการเข้าฮอส นั้นก็หมายถึง ความสามารถของการทำประตูในระยะใกล้ ( ในเขตโทษ ) ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ หากศูนย์หน้าของคุณนั้น เลี้ยงเดี่ยวเข้าไป แล้วกลับยิงไม่เข้า ที่ด้านนอกของกรอบเขตโทษ แม้ค่า finish จะ 20 เต็มก็ตาม นั้นก็คือ ค่าของกลางยิงไกล เพราะการจบสกอร์นั้นไม่ได้นับนอกเขตโทษ ผู้เล่นเหล่านี้ จะอันตรายก็ต่อเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษเท่านั้น เช่น รุด ฟานนิสเตอรอย เป็นต้น

 

การโหม่งนั้นก็คือ การจบสกอร์ได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง มันหมายถึงการที่รับบอลมาที่หัว หรือโยนเข้ามาหา เช่น จากลูกตั้งเตะต่างๆ ดังนั้นกองหลังก็จึงมีสิทธิทำประตูได้ แม้จะมี ค่า finish แค่ 1 ก็ตาม ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว การโหม่งนั้น มิได้หมายความว่า การชนะลูกกลางอากาศ แต่มันคือความแม่นยำของการโหม่ง หรือทิศทางที่ถูกต้องในการส่งผ่านบอลที่ลอยเข้ามาที่หัวของผู้เล่นคนนั้น ดังนั้นผู้เล่นที่จะโหม่งได้ดีจำต้องมีความสามารถทั้งด้าน การโหม่ง การกระโดด ความแข็งแกร่ง และ ความสมดุลย์ ของร่างกายอีกด้วย

 

ในส่วนของไหวพริบ นั้นเป็นปัจจัยหนึ่งของศูนย์ หรือกองกลาง เช่น โรนัลดินโย่ หรือ เอโต้ เป็นต้น การทำประตูของพวกเขานั้น มิใช่การเข้าฮอส มิใช่การยิงไกล ในบางที เขาเล่นลูกอย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นการแปบอลเล่นทาง การหยอดข้ามผู้รักษาประตู ( เหมือนปีที่ โรนัลดินโย หยอดข้ามซีแมน ในฟุตบอลโลก ) ดังนั้นผู้ทำประตูในลักษณะนี้นั้นจะเป็นใครก็ได้ โดยสูตรสำเร็จของมันคือผู้ที่มีความสามารถ ด้านไหวพริบ เทคติก และ ความแน่นอน ( นิ่ง composure ) เช่น อองรี เป็นต้น

 

การจบสกอร์ ของผู้เล่นในทีมนั้น ต้องอยู่ในลักษณะ 50-50 คือ ผู้เล่นที่ดี นั้นก็หมายถึง มีโอกาสทำประตู 10 ครั้ง ต้องยิงเข้ากรอบอย่างน้อย 5 ครั้งเป็นต้น จากค่าความสามารถ 20 เต็ม ดังนั้น การคิดคำนวณจะอยู่ที่ ความสามารถของผู้เล่น หาร2 ต่อ 100% ตัวอย่าง ค่าพลังความสามารถ 10 นั้นก็หมายถึง จะยิงตรงกรอบ 5 ครั้ง ใน 20 ครั้ง เป็นต้น ( ทั้งนี้เรายังต้องดูที่กำลังใจของผู้เล่นด้วย ) จากนั้นเราต้องกลับมาดูที่สถิติว่า ผู้เล่นนั้น มีโอกาสทำประตูด้วยวิธีการแบบใด หากผู้เล่นที่มีความสามารถยิงไกลต่ำ และส่งเสริมให้ยิงไกล ( เมื่อว่าง ) นั่นย่อมหมายความว่า เราน่าที่จะให้เขาทำอย่างอื่นมากกว่ามายิงประตูจากแถวสอง แต่ในทางกลับกันผู้เล่นที่ยิงไกลดี ก็อาจจะยิงไม่ตรงกรอบเลยก็ได้ นั่นก็เป็นเพราะการถูกประกบอยู่ ในลักษณะดังกล่าวเราต้องแยกผู้เล่นนั้นออกจากการถูกประกบ เช่น การให้ผู้เล่นอื่นมาอยู่ในตำแหน่งใกล้ๆ เพื่อดึงความสนใจ หรือ การลด และเพิ่มตำแหน่งของผู้เล่นตัวยิงไกล เพื่อให้ห่างจากตำแหน่งของตัวประกบฝั่งตรงข้าม หรือผู้เล่นที่มีการจบสกอร์ ก็ควรจะให้ยิงแต่ในกรอบเขตโทษเท่านั้น การลดความอิสระ ( creative ) ในแผนลงจะเป็นการช่วยให้ผู้เล่นเหล่านั้น ไม่ทำตามใจของตนเองจนเกินไป โอกาสยิ่งที่มาก ก็มิใช่หมายความว่าจะชนะ ถ้ามันไม่ตรงกรอบ หรือถ้ามันไม่เป็นลูกที่ดี ในเกมนี้ส่วนใหญ่ การทำประตูจะมาจากการเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งโอกาสนั้นน้อยแต่มีความแน่นอนกว่า หากว่าคุณเป็นทีมนึงที่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้า ก็สมควรเปิดพื้นที่ ใช้การเล่นบอลให้กว้างๆ เพื่อดึงตัวประกบให้ห่างกัน ใช้การพาบอลไปกับตัว ในระยะหวังผลเพื่อเรียกเอาฟาล์ว โดยดูได้จากสถิติของผู้เล่นที่สามารถเรียกฟาล์วจากทีมคู่แข่งได้มากเป็นตัวเก็บบอล บางที คุณอาจจะได้ประตูจากลูกนิ่งก็ได้..

 

3. ลูกฟรีคิก ( เรียกฟาล์ว หรือ การได้เตะมุม หรือ เสียฟาล์ว )

 

มันหมายถึงลูกเตะกินเปล่า ซึ่งในที่นี้ก็คือ ลูกนิ่งนั่นเอง ลูกนิ่งถูกแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้

- ลูกโทษ

- ระยะหวังผล ( สามารถทำได้ทั้งเปิด และประตู )

- เตะมุม ( เปิด )

 

โอกาสได้ลูก ทั้งสามลักษณะ ขึ้นอยู่แต่ละสภานการณ์แตกต่างกัน 2 รูปแบบ คือ เป็นฝ่ายครองบอล และ เป็นฝ่ายรุก มันหมายถึงเราจะแบ่งลูกฟรีคิกเหล่านี้ออกตามลักษณะที่เหมือนกันคือได้รับมาจาก การถูกทำฟาล์ว และการทำออกหลังของทีมฝั่งตรงข้าม ปัจจัยที่ทำให้เราได้ฟาล์วจากทีมคู่แข่งนั้นก็คือ

- นำอยู่

หมายถึงการที่เรานั้นมีประตูนำฝั่งตรงข้าม ย่อมส่งผลทำให้ฝั่งตรงข้ามนั้นเล่นเกมเร็วเพื่อบีบให้ฝั่งเรานั้นเสียบอล ลักษณะดังกล่าวเราสามารถหาผู้ที่ที่มีค่าการครองบอลสูง ( off the ball ) มีไหวพริบ ( fair ) และเทคติก ( tactic ) เพื่อช่วยในการเรียกฟาล์ว โดยดูได้จากสถิติในการแข่งนั้นๆ ( โปรดดูบทการอ่านค่าสถิติ ) จากผู้เล่นเหล่านั้นเมื่อได้ฟาล์วบ่อยๆ เราก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์โดยสั่งให้เขาเป็นคนพักบอล ( hold up ball ) คำว่าพักบอลกับเพลเมกเกอร์นั้นต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ทีม เอซีมิลาน จะพบว่า เพลเมกเกอร์ก็คือ กาก้า ส่วนคนพักบอลก็คือ เปียโล่ นั่นเอง ดังนั้นในลักษณะการเรียกฟาล์วนี้ก็คือให้ผู้เล่นคนนั้นครองบอลให้มากที่สุด แต่รุกน้อยที่สุด และสร้างสรรค์เกมให้น้อยที่สุด ส่วนจะได้ ลูกโทษหรือไม่นั้นก็อยู่ที่ตำแหน่งของผู้เล่นคนนั้นที่ถูกยืนอยู่ในลักษณะทั่วไป ( สัญลักษณ์กลมๆ )

 

- อยู่ในระยะหวังผล

ผู้เล่นที่ถูกทำฟาล์วในลักษณะนี้ นั้นมีเป็นบางส่วน มันหมายถึงระยะอันตราย ที่เรานั้นจะสามารถทำประตูได้ หากผู้เล่นของเรามีลักษณะการจบสกอร์สูง เช่นกองหน้า หรือ ยิงไกลดี ผู้เล่นเหล่านั้นมักจะถูกทำฟาล์วได้ และค่อนข้างจะรุนแรงกว่าถูกทำฟาล์วในชนิดแรก แต่สิ่งที่พิเศษคือการทำฟาล์ว ในลักษณะผู้เล่นเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ที่เราจะได้ลูกโทษ หรือเรียกใบเหลืองแดง จากทางกรรมการได้สูง การตั้งค่าก็เหมือนกับ เมื่อเรานำอยู่ แต่หากเป็นในลักษณะที่พื้นที่เปิดโล่งแล้วล่ะก็ การยิงไกลก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะการยิงไกลนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เราจะสามารถได้ลูกเตะมุมนั่นเอง และยังช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้เล่นอันเนื่องมาจากถูกสกัดจากคู่แข่งอีกด้วย ( ศูนย์หน้าที่ชอบยิงไกลทั้งๆ ที่เราตั้งค่าความอิสระต่ำ หมายถึง ศูนย์หน้าที่ไม่มีความกล้า ทำให้ไม่สามารถเก็บบอลกับตัวเองไว้ได้นานๆ เพราะกลัวการเข้าประกบของฝั่งตรงข้าม ผลอาจจะมาจาก ความกล้า ความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่ง และ สภาพจิตใจ ) ทีมก็สมควรมีคนเข้าชาร์จเพื่อที่จะซ้ำด้วยเหมือนกัน

 

- สวนกลับ

การสวนกลับนั้นแตกต่างกับการเรียกฟาล์วในลักษณะทั้งสอง กล่าวคือมันถูกตั้งให้มีความเร็วที่สูงกว่าปกติ ผู้เล่นที่เป็นตัวสวนกลับ จะต้องไม่อยู่กับที่ เขาจะพาบอลไปยังแดนหน้าของตนเอง ผู้เล่นประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีค่าจบสกอร์สูง ( finish ) แต่อย่างใด พวกเขาสมควรมี ความเร็วต้น ความคล่องตัว และ ความเร็วเฉลี่ยที่สูง เขาไม่จำเป็นต้องมีค่าการเลี้ยงบอล ( dribling ) เพราะมันไม่จำเป็นต้องกระชาก เพียงแต่วิ่งไปข้างหน้าก็เท่านั้น กองหน้าประเภทนี้เองเป็นที่หนักใจของกองหลังที่อายุมาก และเชื่องช้า พวกเขาจะหยุดกองหน้าเหล่านี้ด้วยการทำฟาล์ว

 

ดังนั้น การเรียกฟาล์วจากทีมคู่แข่ง ก็ยังมีประโยชน์ ในบางทีที่เรานั้นยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ เราก็อาจจะได้ประตูจากลูกเหล่านี้ก็ได้ครับ

 

 

 

มาใหม่

 

4. การผ่านบอล

 

การผ่านบอล นี้ สำหรับผู้ที่มีค่า passing สูงๆ พวกเขาจะส่งบอลได้เฉียบคม ในลักษณะวางแนวตั้ง หรือจาก กองหลังไปหน้า กองกลางไปหน้า หรือแม้แต่ กองหลังไปกองกลางเช่นกัน

การผ่านบอลลักษณะนี้ หากเป็นตัวจ่ายบอลที่เป็น ตัวพักบอลแล้ว จะต้องมีค่า off the ball ในการครอบครองบอล ค่าการอ่านเกม passing และการตัดสินใจที่ดี

เรามักจะเห็นผู้เล่นในตำแหน่ง DM ( กลางตัวรับ ) นั้นส่งบอลพลาดยาก เพราะโดยทั่วไป แม้เราจะเห็นว่า พวกเขามีทักษะ passing ต่ำมาก ( ดูผู้เล่นตัวในแผนที่ให้ไว้ จะลด creative ต่ำ และเล่นลูกสั้นๆ ง่ายๆ ) จะทำให้พวกเขาเล่นเสียบอลยากมาก มันคือการรักษาเกมแดนกลาง แน่นอนว่า มันจะทำให้ทีมของเราครองบอลได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

ในลักษณะเมื่อเราโดนนำ ผู้เล่นตำแหน่งดังกล่าว เช่น ( dm mc ) จะหลุดตัวประกบ เราก็สามารถจะทำให้เขาเน้นการจ่ายบอลมากขึ้น การยิงไกล รวมทั้งการเก็บบอลไว้ แล้วนำขึ้นไปข้างหน้า เพื่อที่จะดึงตัวประกบของทีมฝั่งตรงข้ามเข้ามาหา และเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ หรือหากเป็น ปีก หรือแบ๊ก ก็จะส่งบอลขึ้นหน้าตรงๆ เช่นนี้เราควรจะเล่นบอลในลักษณะซ้ายและขวา หรือดึงกองหน้าฉีกออกมาเล่นข้างๆ ( ลักษณะนี้ คอมมักใช้บ่อยๆ คือ เล่นระหว่าง แบ๊ก กับปีก ส่งไปกลับมา จากแบ๊กไปปีก แล้วปีกคืนแบ๊ก แล้วแบ๊ก ขึ้นเติมเกม ผู้เล่นฝั่งเราจะเข้าประกบ ทำให้ปีกว่าง )

 

การผ่านบอลตรงนี้ เป็นส่วนสำคัญด้วยในบางครั้ง ผู้รักษาประตู ที่มีค่า kick สูงๆ หรือ throw สูงๆ ก็ให้เราตั้งค่า creative สูง พร้อมกับให้ส่งบอลสูง ในลักษณะโยนไปที่ ตรงกลาง และตั้งค่าตัวเป้า นั้น มีไม่น้อยที่ศูนย์จะชอบหลุดไปยิงได้จากการผ่านบอลของผู้รักษาประตูเรานี่แหละ ...

 

การผ่านบอลที่มี % ดีมากๆ เราก็น่าที่จะเล่นเช่นเดิมต่อไป แล้วหาผู้เล่นที่ได้บอลมากที่สุดเป็นตัวทำเกมรุก หรือตำแหน่งนั้นจะเป็นตำแหน่งเชื่อมเกม ( เพราะผู้เล่นของเรามักจะส่งบอลไปให้เขาบ่อยๆ ส่งผลให้เขามีค่าการส่งบอลมากขึ้น )

 

5. การวางบอล

 

เป็นการส่งบอลในลักษณะแนวขวาง ( แนวนอน ในแผน ) เราเรียกว่า cross ในลักษณะนี้ แน่นอนว่าค่าที่สำคัญก็คือ crossing ผู้เล่นลักษณะดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่จะเป็น แบ๊ก หรือ ปีก การโยนบอลในลักษณะดังกล่าวนี้เมื่อโยนพลาดบ่อยๆ จะทำให้ค่า rating นั้นลดลง และส่งผลถึงค่ากำลังใจผู้เล่น การวางบอลควรมีความเฉียบคมมากกว่า 40 % ขึ้นไป สำหรับการส่งในแต่ละครั้ง เช่น แบ๊กส่งบอล 20 ครั้ง ก็สมควรที่จะส่งได้ 8 ครั้ง นั้นคือระดับปกติ หากว่าต่ำกว่านี้แสดงว่า ผู้เล่นในตำแหน่งที่เราโยนบอลเข้าไปนั้นมีปัญหา ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เกิดกับผู้โยนทุกครั้ง แต่ก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โยนบอล

 

ในลักษณะดังกล่าว วิธีการแก้ คือ ให้ดูผู้เล่นที่ อยู่ในฝั่งตรงข้าม หรือ ห่างไกลกว่าตำแหน่งผู้โยน เว้นไป 1 ตำแหน่ง เช่น จากแบ๊กขวา ก็จะเป็น แบ๊กซ้าย ปีกซ้าย หรือ กองหลังตรงกลาง ฝั่งซ้าย เป็นต้น

พยายามดูว่า ผู้เล่นคนใดนั้นได้บอลน้อยที่สุด วิธีการดูคือ เขาจะส่งบอลน้อย ลากบอลน้อย หมายถึงเขาอาจจะถูกประกบอยู่ หากเป็นผู้เล่นตัวเล็ก การโยนบอลเข้าไปนั้นควรจะเป็นการโยนบอลให้ห่างตัวของเขา ( ไปที่ว่าง ) หรือเป็นผู้เล่นตัวใหญ่ ก็ควรส่งไปที่หัว เป็นต้น นี้คือการแก้ไขเบื้องต้น อย่ารอให้ผู้เล่นคนนั้นเล่นได้ 6 ในบางทีเมื่อเขาเล่นได้ 6 เราอาจจะเสียประตูไปแล้วก็ได้ ...

 

6. การเข้าปะทะ

 

เข้าปะทะให้หนัก สำหรับผู้เล่นในเกมรู้ทุกคน ที่ขาดความแข็งแกร่ง และไม่ค่อยกล้าหาญ แต่ให้เข้าปะทะให้เบาที่สุด สำหรับผู้เล่นที่เป็นตัวรุกของเรา เพื่อหลบเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ในบางครั้งเราควรเอาผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ความดุดัน เข้าตัดเกมผู้เล่นฝั่งตรงข้าม ในลักษณะนี้ คือตัวชนก่อนถึงกองหลังของเรา ( DM )

 

หากทีมของเรามีพลังการปะทะสู้ไม่ได้เลย ไม่ต้องตกใจ เราเอาผู้เล่นที่ฟิตกว่าลงไปตัดเกม หรือเมื่อปะทะไม่ไหว ก็กลับไปดูว่า tacking ของฝั่งเรา ตัวใดทำเสียบ่อย ปรับความสมดุลของค่า tacking เฉพาะตัวของเขาเสีย ก็จะทำให้เขาเข้า tacking กับตัวที่เขาประกบ หรือตัวประกบเขานั้น เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 

7. การเล่นลูกกลางอากาศ

 

ค่าที่มีความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศที่ดี คือ โหม่ง กระโดด แข็งแกร่ง ความกล้า ผู้เล่นเหล่านี้แหละจะมีความสามารถในลูกโหม่ง พวกเขาควรที่จะมีค่า off the ball ในกองหน้า ส่วนกองหลังอย่าลืมการอ่านเกมดีๆ เลย หากเล่นเกมรับ ก็ต้องมีค่าประกบ ไว้ด้วย บางที กระโดดดีแล้ว เก่งแล้ว แต่ไม่ได้ประกบ ก็เหมือนปล่อยให้เขากระโดดโหม่งฟรีๆ น่ะแหละ

 

การเล่นลูกกลางอากาศส่วนมาก ใช้กับผู้เล่นกองหน้า ที่เป็นตัวเก็บบอล ผู้เล่นคนนี้ไม่ต้องลงมารับ ได้บอลแล้ว ไม่ต้องส่งต่อก็ได้ ควรจะรอเพื่อนขึ้นมาเติมเกม หรือจะโหม่งต่อให้เพื่อนเลย ผู้เล่นคนนี้จะไม่เติมเกมสูง เพื่อจะได้รอรับบอลจากกองหลังให้ได้ง่ายกว่า ขึ้นไปให้กองหลังฝั่งตรงข้ามยืนประกบ

 

ในบางที ลูกกลางอากาศ นั้นจะสามารถทำประตูได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเราจะยืนอยู่ในกรอบ 6 หลา แล้วโยนบอลจากริมเส้น ( คอมส่วนใหญ่ใช้ไม้นี้ เพราะ ใช้ผู้เล่นคนเดียว ก็มีสิทธิฟลุคได้ประตู ) การหยุดเกมคือต้องจัดการกับปีกของเขานั่นแหละ การไม่ให้เขาโยนบอลได้ มีสองวิธี คือประกบติดตัว และตามตลอด กับ ประกบห่าง และตามตลอดเช่นกัน ดังนั้น เราเลือกที่จะประกบเขาจากความสามารถในการเลี้ยงบอล ความเร็ว ความคล่องตัว เหล่านี้จะเป็นตัวบอกเราว่า ควรจะประกบพวกเขาอย่างไร ...

 

 

 

( ตัวอย่าง การแก้ไขเกมในลักษณะต่างๆ )

 

http://www.savefiles.net/d/nhzfe26ehzwhe.html

ใน ไฟล์ มีทั้ง หมด 5 ไฟล์ย่อย

แตกมาแล้วจะได้

 

1. แผน 4-1-2-2-1 ให้ลองไปศึกษาดูก่อน ไว้จะมาเฉลย ( แผนที่เน้นการเสียประตูน้อยเป็นพิเศษ )

2. รูปทีมบาเลนเซีย ที่เป็นผลจากการใช้แผน ดังกล่าว โดยมิได้เล่นเอง แต่เปิดทิ้งไว้ ครั้งละ ครึ่งฤดูกาล 2 ปี นิดๆ

3. connor.pkm ตัวอย่าง เกมที่ชนะจากลูกโหม่ง ด้วยลูกเตะมุม

4. fouls.pkm ตัวอย่าง เกมที่ชนะด้วยลูกโทษ และเรียกใบแดง โดยตั้งไว้ที่ ซิลบา เป็นตัวเรียกฟาล์ว ช่วงนาที 70 เป็นต้นไป

5. unmarked.pkm ตัวอย่าง เกมที่ชนะด้วยลูกซ้ำจากการยิงไกล จากรีเพลย์จะสังเกตได้ว่า ผู้เล่นในทุกตำแหน่งจะเน้นการยิงไกลเป็นพิเศษ ( ยิงไกลบ่อยสุด ๆ )

 

 

มาใหม่ มาก

 

เฉลย แผน 4-1-2-2-1

แผนนี้การทำเกมแดนกลางเป็นหลัก ตัว DM สามารถเลื่อนให้มาอยู่ตำแหน่งตรงกลาง MC ได้ หากต้องการเกมรุกมากขึ้น หรือในลักษณะรูปเกมที่ คอมนั้นไม่เน้นการบุกตรงกลาง ( ออกปีก )

กองหลังซ้ายเป็นตัวโหม่งทำประตู มื่อได้ลูกเตะมุม แบ๊กสองข้างมีค่า position tacking marking

มีหน้าต่ำสองคนคอยสนับสนุนเกมรุก ควรมีค่า creative fair tech longshot finish composure

ส่วนลูกศร ของหน้าต่ำสองตัวนั้น สามารถลากขึ้นไปด้านบน เปลี่ยนไปใช้ระบบ หน้า 3 ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ โดยรูปเกมที่จะปรับไปใช้ในลักษณะ หน้า 3 นั้น หมายถึง รูปเกมที่ต้องการบุกเจาะเข้าไปตรงกลางของทีมคู่แข่ง

ส่วนในกรณีที่เจอทีมที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า ให้ลบลูกศรของหน้าต่ำทั้งสองออกไป โดยจะกลายเป็นเกมสวนกลับให้กับศูนย์หน้า ที่สมควรจะมีความเร็วทั้ง 3 ค่า ( acc agi pace ) มากกว่ากองหลังของทีมคู่แข่ง จะทำให้การเปิดเกมสวนกลับนั้นได้ผล

 

นำเสนอ แผน ระบบ 4-4-2

แผนนี้ มีระบบแบบทั่วไป ปีกทั้งสองข้าง เน้นการโยนบอล แล้วเลี้ยง ค่าความสามารถควรมีดังนี้ dribling acc agi pace crossing

มีกองหลังซ้าย เป็นผู้เล่นที่ โหม่งดีที่สุดในทีม แบ๊กสองข้าง วิ่งได้เร็วพอสมควร มีค่า crossing สูง

มีกองกลางซ้าย เป็นเพลย์เมกเกอร์ ที่ต้องมีค่า dribling passing longshot tech creative และความเร็วพอสมควร

มีกองกลางขวา เป็น ตัวรับ brav workrate tacking heading anti

มีกองหน้าซ้าย เป็นตัววิ่ง ควรมีค่า composure acc agi pace fair อ่อตรงนี้ หากค่า passing ต่ำ กับ longshot ต่ำ ให้ปรับในแผน ให้ต่ำที่สุดด้วยครับ ...

มีกองหน้าขวา เป็นตัวเป้า และเก็บบอล ควรมีค่า heading ,str ,off the ball ,jumping

 

http://www.uploadd.com/download.aspx?pku=3...JOTOZLX8HV95TN[

ลองไปใช้ดูแล้วกัน

 

ปล. หลังๆ เหมือนขี้เกียจเนอะ แบบว่า ภาคใหม่กำลังมาแหละ

Edited by Goddut
Posted

ซึ้งจังเยยยขอบคุงมากมายคร๊าบฟามรู้อีกล่ะอิอิ

Posted

เพิ่งชนะ เวสแฮม 3-0 ดูแผนการเล่น แล้วแก้เกมเอา มีความสุขรออ่านอยู่นะครับ

Posted (edited)

มาอยู่นี่ นี่เอง ขอย้ายไปห้องรวมกระทู้ดีเด่น ทั้ง 4 กระทู้เลยนะครับปล.ยังรอส่วนที่ยังเขียนไม่เสร็จด้วยนะครับ^^

Edited by จูเก๋อเหลียง
  • 2 months later...
  • 1 month later...
Posted

มีแผนที่ คุนใช้อีกมั้ยครับ ผมชอบแผนของคุณมากเลย ถ้ามีขอเอามาลงให้หน่อยนะครับ จะขอบพระคุนอย่างสูง

  • 4 weeks later...

Create an account or sign in to comment

You need to be a member in order to leave a comment

Create an account

Sign up for a new account in our community. It's easy!

Register a new account

Sign in

Already have an account? Sign in here.

Sign In Now
×
×
  • Create New...

Important Information

FM-Thai.com uses cookies, by using our website you agree to our use of cookies as described in our Privacy Policy We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.