Jump to content

Recommended Posts

Posted

แต่ก็มีแท็กติกที่แตกต่างกันออกไปอีกหลายวิธี ในการที่จะบรรลุถึงจุดประสงค์ที่ว่า - และนั่นคือเหตุผลที่เราต้องจ้างกุนซือคนเก่งทั้งหลายมาคุมทีม.

 

มันอาจจะดีกว่าถ้าจะเน้นตั้งรับให้มากขึ้น หลังจากที่เราออกนำไปแล้ว, หรือถ้าทีมกำลังจะแพ้ การเซ็ทแผนให้กองหน้าดันขึ้นสูงกว่าเดิม ก็อาจจะจำเป็นมากกว่าสิ่งใด.

 

แต่การจะทำให้ทีมเล่นได้หลากหลายมากขึ้นอย่างนั้น ก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างของทีมด้วยเช่นกัน.

 

แต่เดิมหลายๆทีมในโลกล้วนเล่นในแผน 4-4-2 - นั่นคือกองหลัง 4 กองกลาง 4 และกองหน้า 2, แต่เมื่อเกมฟุตบอลก้าวหน้ามากขึ้น, ผู้จัดการทีมและนักเตะต่างก็หันมาทดลองสูตรต่างๆที่หลากหลายขึ้นเช่นกัน.

 

การประยุกต์คือกุญแจสำคัญ และผู้จัดการทีมทั้งหลายก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของสูตรการเล่นต่างๆ ไปพร้อมกับความก้าวหน้าของเกม...

 

4-4-2

 

แผนนี้มีรากฐานมาจาก 4-2-4

ซึ่งทีมชาติบราซิลและรีล มาดริด

ใช้กันอย่างได้ผลในอดีต"

-ดอน ฮาวน์, อดีตโค้ชทีมชาติอังกฤษ-

 

แผนที่เบสิคที่สุดที่คุณจะเห็นได้จากหลายๆทีมคือ 4-4-2.

 

มันเป็นระบบการเล่นที่ดัดแปลงมา เพื่อให้คุณมีแดนกลางที่แข็งแกร่ง และมีตัวทำเกมริมเส้นมากมาย.

 

การมีกองหน้าสองตัว นั่นหมายถึงแดนหน้าจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ กว่าการต้องคอยเหล่ามิดฟิลด์ขึ้นมาช่วยเติมเกม.

 

แผนนี้ก็เหมือนแผนอื่นๆ ที่มักจะให้อิสระกับฟูลแบ็ค, ซึ่งจะได้บอลบ่อยมากกว่าพวกมิดฟิลด์, โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งก็เล่นแผนนี้ด้วยเช่นกัน.

 

จริงๆแล้ว แผนนี้โค้ชบางคนจะให้มิดฟิลด์ตัวกลางของทีมเป็นตัวรับ แล้วฟูลแบ็คเป็นตัวรุกด้วยซ้ำ.

 

นอกจากนั้น แผนนี้ยังเปิดโอกาสให้มิดฟิลด์หนึ่งในสองคน ขึ้นสูงไปสนับสนุนศูนย์หน้าได้อีกด้วย.

 

และบางครั้งมิดฟิลด์สองตัวนี้ จะสลับกันขึ้นสูงเพื่อให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามคอยพะวงเช่นกัน.

 

แต่บางทีมโดยเฉพาะทีมชาติอังกฤษ ที่มักจะเน้นความเหนียวแน่น, โดยให้มิดฟิลด์คนนึงรับหน้าที่ในเกมรับและยืนให้ต่ำเข้าไว้ - เช่นเลดลี่ย์ คิงส์หรือเจมี่ คาราเกอร์ - เพื่อคอยช่วยเหลือกองหลังของทีม.

 

นั่นทำให้มิดฟิลด์เกมรุกอีกคน มีอิสระมากขึ้นในการเติมเกมและขึ้นสูงไปช่วยกองหน้า.

 

แผนนี้มีอีกชื่อนึงว่า "แผนรูปเพชร" (diamond formation) เพราะกองกลางทั้งสี่จะยืนกันเป็นรูปทรงของเพชร, และเป็นที่นิยมของทีมที่ไม่มีปีกที่เก่งมากนัก...

 

4-4-1-1

 

การจะจับ เบิร์กแคมป์มันแทบ

เป็นไปไม่ได้ - เมื่อเขาเล่น

ในตำแหน่งหน้าต่ำ"

-ดอน ฮาวน์, อดีตโค้ชทีมชาติอังกฤษ-

 

แผนนี้ไม่ได้สับสนอย่างที่หลายคนเข้าใจ.

 

มันก็เหมือนกับ 4-4-2 นั่นแหละ ต่างกันแค่กองหน้าคนนึงจะถอยลงมายืนต่ำกว่ากองหน้าตัวเป้า แต่สูงกว่าพวกมิดฟิลด์, ก็เท่านั้น.

 

กองหน้าคนนี้จะสร้างปัญหาให้กับแนวรับของคู่แข่ง เพราะมันยากสำหรับกองหลังที่จะประกบกองหน้าตัวต่ำได้.

 

กองกลางของพวกเขามีกองกลางสี่คนของเราให้ประกบอยู่แล้ว และถ้ากองหลังคนนึงดันขึ้นมาประกบกองหน้าตัวต่ำ เขาก็จะถูกดึงออกจากแนวรับของทีม.

 

นักเตะคนนึงที่นับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในตำแหน่งนี้คือ เดนนิส เบิร์กแคมป์ อดีตกองหน้าของอาร์เซน่อล.

 

เขาเป็นปรมาจารย์ในด้านนี้, ที่มักหาที่ว่างให้ตัวเองได้เสมอ ระหว่างที่เกมขับเคลื่อนไปข้างหน้า.

 

แผนนี้ให้อิสระมากกว่ากับผู้เล่นตัวทำเกมคนนี้. เพราะเขาจะมีหลายทางเลือกให้เลือกทำ ทั้งผ่านบอลสั้นและยาว, เลี้ยงบอล, ตัดออกนอก หรือจี้เข้าหาประตู.

 

และถ้าเขาทำเกมให้เพื่อนไม่ได้ ในขณะที่พื้นที่เปิดให้ตัวเอง, ก็บ่อยครั้งที่เขาจะเลือกทำสกอร์เอง ด้วยการยิงไกล.

 

และที่ได้เปรียบอีกอย่างคือ ถ้าเขาสร้างโอกาสให้เพื่อนๆในกรอบโทษได้, เขาก็อาจจะตามเข้าไปเพื่อช่วยทีมได้อีกทีหลัง...

 

4-5-1

 

คุณต้องรู้ว่าจะใช้กองหน้า

ตัวเป้ายังไง โดยไม่ให้เขา

โดดเดี่ยว และเหนื่อยจนเกินไป"

-ดอน ฮาวน์, อดีตโค้ชทีมชาติอังกฤษ-

 

แผนนี้เป็นที่นิยมของทีมในยุโรป, และกำลังเริ่มป็อปปูล่าร์ขึ้นเรื่อยๆในพรีเมียร์ ลีก.

 

กองหลังสี่ กองกลางห้า และกองหน้าหนึ่ง - มักเห็นได้บ่อยในเกมระดับยุโรป เมื่อทีมเจอเกมเยือนยากๆ และผู้จัดการทีมตัดสินใจแพ็กกองกลางให้แน่นเข้าไว้.

 

มันจะได้ผลเป็นอย่างมาก ในกรณีของการรักษาตำแหน่งของนักเตะ, และด้วยกองกลางห้าคนที่คอยช่วยกันซ้อนในเกมรับ นั่นทำให้ทีมมีฐานที่แข็งแรงมากเลยทีเดียว.

 

บางครั้งเราอาจจะได้เห็นผู้เล่น 10 คนอยู่หลังลูกบอลด้วยซ้ำ - แต่นั่นก็หมายความว่า ทางเลือกในเกมรุกจะถูกจำกัดด้วยเช่นกัน.

 

เพราะกองหน้าผู้น่าสงสาร จะต้องยืนต่อสู้กับกองหลังคู่แข่งอย่างเดียวดายในแดนหน้า.

 

มันจะได้ผลกับทีมที่มีกองหน้าที่แข็งแรง, ตัวใหญ่ เช่น ดร็อกบา ของเชลซี, ผู้ซึ่งสามารถแย่งบอลกลางอากาศได้ดี และเก็บมันไว้จนเพื่อนขึ้นมาช่วยเติมเกมได้.

 

อีกอย่างคือเมื่อเทียบกับแผนอื่น มันจะสร้างโอกาสยิงให้ทีมได้น้อยกว่าแน่ๆ.

 

แผนนี้จะคล้ายกับแผน 4-3-3, ซึ่งจะใช้ปีกสองตัวขึ้นมาแจมกับกองหน้าตัวเป้า.

 

โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้แผนนี้กับเชลซีอย่างได้ผล - ง่ายๆก็คือ 4-3-3 ยามทีมบุก และ 4-5-1 ยามตั้งรับ...

 

4-3-3

 

4-3-3 มันแทบไม่

ต่างอะไรกับ 4-5-1 เลย"

-ดอน ฮาวน์, อดีตโค้ชทีมชาติอังกฤษ-.

 

แผนนี้ใช้เน้นเกมรุกโดยเฉพาะคุณจะมีกองหน้าถึงสามตัว โดยที่กองกลางจะยังคงแข็งแกร่งอยู่เช่นเคย.

 

สามมิดฟิลด์ในแผนนี้ ปกติจะยืนในตำแหน่งที่ใกล้กันเพื่อช่วยกันป้องกันในเกมรับ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถูกคู่แข่งพาบอลผ่านไปได้ง่ายๆแน่.

 

สามกองหน้าจะแยกกันไปในคนละด้านของสนาม เพื่อเปิดเกมบุกแถวริมเส้นให้ทีม.โดยปกติจะใช้หน้าตัวเป้าหนึ่งคน และทางซ้าย, ขวามือของเขาอีกข้างละคน.

 

บาร์เซโลน่า ใช้แผนนี้ด้วยนักเตะสามคนอย่าง อองรี, โรนัลดินโญ่ และเมสซี่. มีน้อยทีมมากที่จะเริ่มใช้แผนนี้ตั้งแต่นาทีแรก เพราะมันต้องการกองหน้าที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ.

 

แต่ถ้ากุนซือต้องการประตูในช่วงท้ายของเกม เขาก็อาจจะปรับมาใช้สามกองหน้าแบบนี้ได้เช่นกัน...

 

5-3-2

 

ทีมที่ใช้แผนนี้ได้เวิร์คที่สุด

คิอ ไอแอกซ์ อัมส์เตอร์ดัมส์"

-ดอน ฮาวน์, อดีตโค้ชทีมชาติอังกฤษ-

 

แผนนี้โด่งดังมากเมื่อหลายปีก่อน เพราะมันง่ายต่อการสลับระหว่างเกมรับกับเกมรุก.

 

มิดฟิลด์ริมเส้นทั้งสองคนก็คือฟูลแบ็คตัวรุกนั่นเอง, ดังนั้นคุณจะเรียกมันว่า 3-5-2 ก็ได้ด้วยเช่นกัน. อย่าง เกล็น ฮอดเดิ้ล เองก็ชอบใช้แผนนี้ตอนที่เขาคุมทีมชาติอังกฤษ.

 

ที่แนวรับจะมีกองหลังตัวกลางถึงสามตัว - โดยหนึ่งในนั้นมักจะเป็นสวีปเปอร์ (ตัวกวาด) - มันจึงเหนียวแน่นมากในเกมรับ กรณีที่สองกองหลังตัวกลางไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก.

 

วิงค์แบ็คทั้งสองข้าง คือกุญแจสำคัญของแผนการเล่นนี้. พวกเขาจะมีอิสระในเกมรุก ดูตัวอย่างได้จาก คาฟู และคาร์ลอส ของบราซิล.

 

งานของพวกเขาคือตลอดทั้งริมเส้นสองข้างของสนาม, ทั้งเกมรุกและเกมรับ ด้วยการหาทางโยนบอลและเข้าสกัดปีกคู่แข่งตามลำดับ.

 

แต่ถ้าสองวิงค์แบ็กนี้มีปัญหากับความเร็วของเกม หรือของตัวเอง, ทีมจะขาดการสนับสนุนที่ดีทั้งในเกมรับและรุกเช่นกัน.

 

มันไม่ค่อยดีนัก ที่จะให้นักเตะแค่สองคนรับผิดชอบต่อทั้งทีมขนาดนั้น. เพราะพวกเขาต้องมีร่างกายที่ฟิตมากจริงๆ...

 

 

....................#....................

 

CREDIT บทความโดย : BBC และ คุณ เชิ้ตดำนกหวีดหวาน แห่งเวป www.liverpoolthailand.com

 

 

 

 

 

 

--------------------

Posted

โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้แผนนี้กับเชลซีอย่างได้ผล - ง่ายๆก็คือ 4-4-3 ยามทีมบุก และ 4-5-1 ยามตั้งรับ.

 

4-4-3 ลงผิดน่ะครับ น่าจะเป็น 4-3-3 เพราะเกินมาคนนึง :feel_good:

Posted

4-4-2 มักจะยืดหยุ่นได้ทั้งเกมรับและรุกภายในเวลาเดียวกันผมจึงเลือกใช้แผนนี้มาตลอด

  • 2 weeks later...
  • 2 weeks later...
  • 3 weeks later...

Create an account or sign in to comment

You need to be a member in order to leave a comment

Create an account

Sign up for a new account in our community. It's easy!

Register a new account

Sign in

Already have an account? Sign in here.

Sign In Now
×
×
  • Create New...

Important Information

FM-Thai.com uses cookies, by using our website you agree to our use of cookies as described in our Privacy Policy We have placed cookies on your device to help make this website better. You can adjust your cookie settings, otherwise we'll assume you're okay to continue.